รู้ไว้ใช่ว่า...ยาพาราเซตามอล --- ยาสามัญประจำกระเป๋า

เชื่อว่าหลายต่อหลายท่านคงต้องมียาแก้ปวดหัว ลดไข้ "พาราเซตามอล" ติดอยู่ในกระเป๋ากันแทบทุกคน หรืออย่างน้อยก็ต้องมีติดบ้านกันแทบทุกบ้านกันใช่หรือไม่ครับ

วันนี้แวบไปอ่านข่าวในเว็บของ ไทยโพสต์ เกี่ยวกับเรื่องนี้มา เห็นว่ามีประโยชน์เลยนำมาฝากกันครับ เนื่องจากตัวผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่พกยาแก้ปวดติดกระเป๋าตลอดเวลา ไม่ใช่แค่พาราฯ มีทั้งแก้ไมเกรน แก้ไข้ คลายกล้ามเนื้อแทบทุกอย่าง (ตู้ยาเคลื่อนที่เลยทีเดียว) พอเห็นหัวข้อนี้เลยต้องรีบกดเข้าไปอ่านทันทีครับ

เจ้ายาพาราเซตามอลนี้ เป็นยาพื้นฐานที่คนไทยเรากินกันแบบครอบจักรวาล เป็นอะไร เป็นไข้ ปวดหัว ตัวร้อน ปวดตัว ก็จะนึกถึงยาตัวนี้ก่อนเพราะหาง่าย ซื้อง่าย แต่รู้หรือไม่ว่ายาตัวนี้มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ยาตัวนี้ถ้าเรากินกันติดต่อกันนานๆ หรือกินในปริมาณที่มากเกินไป จะมีผลข้างเคียงที่อันตรายมากต่อ "ตับ" ของเราอย่างรุนแรงครับ

ขนาดและปริมาณของการกินยาพาราฯ ที่เหมาะสม ก็คือไม่ควรรับประทานยาพาราเซตามอลเกินวันละ 4 กรัม รับประทานได้ไม่เกิน 8 เม็ด/วัน (ยาในท้องตลาดอยู่ที่ 500 มิลลิกรัมและไม่เกิน 1-2 เม็ดต่อครั้งครับ อีกอย่างที่ผมไม่เคยรับรู้มาก่อนเลยก็คือ ในกรณีการใช้ยานี้กับผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 50 กิโลกรัม ควรกินครั้งละ 1 เม็ดเท่านั้นครับ (ความรู้ใหม่มาก)


นอกจากนี้ยังมีข้อพึงระวังอีกหลายอย่าง เช่น ห้ามกินยาคู่กับเหล้า (ข้อนี้น่าจะรู้กัน แต่ก็เชื่อว่าต้องมีคนทำบ้างล่ะ) หรือถ้่าท่านมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับตับ ก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกันครับ และยังมีข้อพึงระวังอีกข้อก็คือการกินยานี้คู่กับยาประเภทอื่น เช่น ยาแก้หวัด ยาคลายกล้ามเนื้อ ก็ต้องระวังเช่นกัน เนื่องจากยาจำพวกนี้อาจมีส่วนประกอบของพาราเซตามอลผสมอยู่แล้ว หากกินคู่กันอาจทำให้ร่างกายได้รับปริมาณยามากเกินไปและก่อให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้นก่อนจะกินยาอะไร ก็ลองอ่านฉลากข้างกล่อง ข้างแผงกันสักนิดน่าจะดีครับ หรือถ้าไม่แน่ใจ ก่อนซื้อยาใดๆ ก็ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรกันก่อนทุกครั้งครับ

ที่เขียนมานี้ไม่ใช่อะไร เพราะผมเป็นคนหนึ่งที่เข้าข่ายคนที่กินพารามากเกินไป และกินคู่กับยาประเภทอื่นโดยไม่เคยอ่านฉลากยา และที่สำคัญผมกินพาราทีละ 2 เม็ด มาตลอด!!!!