Monday, September 30, 2013

เปื่อยมา 3 วันแล้ว

หลังจากที่อดหลับ อดนอนติดๆ กันมา 3 คืน เพราะมัวแต่นั่งคิดโน่น คิดนี่ไปเรื่อยเปื่อย จนถึง ตี2 ตี3 และต้องตื่นออกไปทำงานตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง สรุปเวลานอนของ 3 คืนได้ประมาณ 10-12 ชม. ร่างกายก็เริ่มประท้วงด้วยการเป็นไข้หวัดถึงขั้นซมจนถึงวันนี้ก็ 3 วันแล้วเหมือนกัน (เวลาเท่ากับที่อดนอนเลย)

บางทีผมอาจจะลืมไปว่าตอนนี้ไม่ใช่วัยรุ่นอายุ 17-18 แล้ว ร่างกายคนเราเมื่ออายุมากขึ้น อะไรอะไรก็เริ่มเสื่อมสภาพลงไปตามกาลเวลา ประกอบกับช่วงนี้อากาศก็ไม่ค่อยจะดีเอาซะเลย ร่างกายก็เลยอ่อนแอกว่าปรกติ เจ็บป่วยได้ง่าย

ตอนนี้ก็ได้แต่พักผ่อนให้ได้เยอะๆ ปรับเปลี่ยนเวลาการใช้ชีวิต คิดเรื่องต่างๆ ให้น้อยลงบ้าง (แต่ป่านนี้คนป่วยก็ยังไม่นอน) ร่างกายจะได้แข็งแรง

การป่วยครั้งนี้ก็ทำให้คิดได้ว่า บางครั้งการที่เราฝืนคิดอะไรไปนานๆ คิดจนดึกจนดื่นแล้วไม่ได้คำตอบ นอนดึก พอตื่นขึ้นมาแล้วสมองก็ไม่แจ่มใส ปัญหาที่คิดค้างคาไว้ ก็ยิ่งคิดไม่ออกเข้าไปใหญ่ ฝืนคิดต่อไปก็ไม่ทำให้อะไรดีขึ้นมาสักนิดเลย แถมทำให้ร่างกายเจ็บป่วยอีกด้วย ดังนั้น คนเราควรที่จะคิดหรือทำอะไรแต่พอดี ไม่หักโหม ถ้าคิดไม่ออกให้ปล่อยวางบ้าง พักผ่อนก่อน พอสมองแจ่มใสแล้วค่อยกลับมาคิดใหม่ บางครั้งอาจจะทำให้ปัญหาต่างๆ คลี่คลายได้ดีขึ้นก็ได้

อากาศไม่ดั ดูแลสุขภาพกันเยอะๆ ครับ

Wednesday, September 25, 2013

อคติ ศักดิ์ศรี เหมือนม่านหมอกบังตา

อคติ ศักดิ์ศรี เหมือนม่านหมอกบังตา

สิ่งดีๆ ที่เคยทำอยู่ทุกวัน พอม่านหมอกเหล่านี้มาบังตา ก็ทำให้ความหมายผิดไป
 ม่านหมอกนี้ก็มีหลายระดับ...
ถ้าเบาบาง... ก็ยังสามารถหันหน้ามาพูดคุยกัน
ถ้าหนาทึบ... ก็ต้องใช้เวลาจนกว่ามันจะจางไป

จงระวัง อย่าให้ม่านหมอกนั้นหนา จนกลายเป็นควัน
มันจะทำให้อึดอัด สำลัก และขาดอากาศหายใจ....
กว่าควันนั้นจะจาง... มันอาจจะสายเกินไป