Saturday, September 11, 2010

Keywords โดนใจ สไตล์ Clickbank

เดือนพฤษภาคม 2551-- ตอนนั้นผมขาดทุนมาแล้วหลายเดือน หลังจากลองผิดลองถูกมาหลายตัวและหลายวิธีมันก็ยังเหมือนเดิม  คือขาดทุนยับเยิน   ก็พยายามค้นหาในเน็ตนี่แหละว่า มีตรงไหนพอจะให้ความรู้เรื่องการทำ CB บ้าง  มาเจอเว็บบอร์ดนี้เข้า  รู้สึกทึ่งในความรอบรู้ของบรรดาเทพที่มาถ่ายทอดให้รุ่นน้องฟัง  ถ้าอยากทำ CJ หรือ Amazon มาที่นี่แต่ตัวกับหัวใจ  เดินออกไปด้วยความรู้เต็มเปี่ยม ทำมาหากินได้เลย  แต่ทว่าข้อมูล Clickbank มีน้อยยิ่งนัก  ยังไม่พอเพียงที่จะช่วยผมแก้ปัญหาการขาดทุนได้  เลยต้องย่องเข้าไปดูเว็บบอร์ดฝรั่ง  สมัครเข้าเป็นสมาชิกหลายบอร์ด  เข้าไปโพสข้อความในแหล่งที่เซียนฝรั่งเขามาสุมหัวกันอยู่   คนไหนท่าทางใจดีผมก็เมลไปถามเขาตรงๆเลยว่า ?เฮีย ถ้าผมจะขายตัวนี้จะใช้วิธีไหนดี ?  คนเก่งและรู้จริงเขามักจะไม่หวงวิชา ส่วนใหญ่จะตอบมาเลยว่า ?รอเดี๋ยวไอ้น้อง  เดี๋ยวเฮียสอนให้? 
 สะสมสูตรเด็ดเคล็ดลับของเซียนฝรั่งเขามาเรื่อยๆ   จนกระทั่งจากที่ขายไม่ได้มันก็เริ่มขายได้ขึ้นมา    จากที่เคยสนใจแต่ตลาดอเมริกา  คิดแต่จะเอาเงินจากคนอเมริกัน ก็ได้เรียนรู้ว่าพ่อค้าที่ดีต้องไม่รังเกียจเงินไม่ว่าจะมาจากมุมไหนของโลก  ตอนนี้ผมได้ลูกค้าจากทุกที่  บางประเทศผมไม่เคยรู้จักมาก่อนเลยว่ามีตัวตนในโลก  

หลังจาก KeywordSpy แล้วไปไหนต่อ?
ก่อนจะมาใช้ KeywordSpy ผมใช้มาหลายตัวแล้ว  ClickAdEqualizer  ล่าช้าและเชือนแชมาก ต้องต่อ Proxy Server ตลอด ขนาดต่อพร็อกซี่แล้วก็ยังติดบ้างไม่ติดบ้าง   ลองดู KeywordElite อีก หลายสิ่งหลายอย่างไม่เป็นอย่างที่โม้ไว้   ย้ายมา SeoDigger-WordTracker-Spyfu   มาลงท้ายที่ KeywordSpy ซึ่งผมชอบมากเพราะมันใช้ฟรีนั่นเอง และข้อมูลที่ได้ก็ค่อนข้างชัดเจน  ไม่ต้องตีความกันนาน  และมันSearch ได้หมดไม่ว่าเราจะใช้อะไรเป็นตัวหลัก URL-Keyword-Affiliate Id เรารู้ทันทีว่าใครทำอะไรที่ไหน อย่างไร  ใส่ URL ลงไป แล้วดูที่ Overview เราก็เห็นแล้วว่าวงเงินที่เขาใช้โฆษณากันอยู่วันละเท่าไหร่   ถ้ามันไหลลงแสดงว่ากำลังเสื่อมความนิยม  ถ้าไหลขึ้นก็กำลังมาแรง เช็คได้หมดทุกเว็บดังๆที่ผ่านAdwords
        แต่ Keyword Tool พวกนี้ไม่มีตัวไหนสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์  แม้แต่ KeywordSpy  เหตุเพราะ
       1) เขาจับมาได้เฉพาะผู้ที่ใช้วิธี Direct Link กับ Adwords   แต่ผู้ขาย Clickbank ส่วนใหญ่เกือบเก้าในสิบใช้ Landing Page --Article Marketing  --และวิธี  Redirect 
     2) บางคนใช้วิธี Cloaking URL ทำให้ไม่สามารถดักจับได้
      3) บางคนใช้หลายนิกเนม เพื่อป้องกันการถูกล้วงข้อมูล
      อย่างไรก็ถาม ข้อมูลที่ได้มาแม้จะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ มันก็ทำให้เราพอจะเดาได้ว่าตัวไหนควรจับ ตัวไหนควรปล่อย   ผมมองเห็นข้อมูลใน KeywordSpy ครั้งแรกต้องนั่งอึ้งเลย เพราะตัวที่เราพยายามโปรโมทมาทุกตัวมันไม่อยู่ในสายตาของพวก Super affiliates เลย  มันไปคนละทิศละทางอย่างสิ้นเชิง

จะทำอย่างไรต่อกับข้อมูลเหล่านี้?
จะสังเกตุว่า Keywords ของ Super affiliates ที่ปรากฏให้เราเห็น มีแต่คีย์เวิร์ดสั้นๆซึ่งราคาแพงมาก  ที่จริงเขาใช้ทั้งแบบสั้นและแบบยาว  แต่เพราะเราดูได้แค่ยี่สิบรายการจึงเห็นเฉพาะคำสั้นๆ  ถ้าดูฉบับเสียตังค์ก็จะเห็นหมดว่าเขาใช้กี่พันกี่หมื่นคำ  แต่เราก็พอจะเอามาเป็นแนวได้ว่าเราจะต่อหัวต่อหางคำเหล่านี้ต่อไปอย่างไรดี
    สินค้าamazon พอได้คำหลักคือ ยี่ห้อ กับ รุ่น พอใส่ cheap, buy, sale, low price, best price, best buy ปะหน้าปะหลัง แล้วปล่อยให้มันกระโดดขึ้นเว็บวันสองวัน  ไม่ช้าไม่นานสตางค์ก็เคาะประตูเรียกหาถึงหน้าบ้านกันแล้ว    แต่สูตรนี้เอามาใช้กับคลิกแบ๊งไม่ได้  เพราะส่วนใหญ่มันเป็นสินค้าข้อมูล  สินค้าพวกนี้ต้องใช้เวลากลั่นกรองกันนานก่อนการตัดสินใจ  เขาไม่ได้เข้าเว็บเพื่อเสียเงิน  เขาต้องการข้อมูลที่ไม่เสียเงินต่างหาก แต่เมื่อมันหาไม่ได้จริงๆ เขาถึงยอมเสียเงิน ก่อนเสียเงินเขาก็ต้องคิดแล้วคิดอีกว่ามันคุ้มค่าหรือไม่ $37 เพื่อซื้อ ebook ไม่กี่หน้ามันคุ้มกันหรือไม่
    คนที่ search ด้วยคำว่า "Garmin Nuvi 760?  เขากำลังค้นข้อมูลเพื่อหาเรื่องเสียตังค์แน่นอน พอเจอราคาใน Amazon ดีกว่าที่อื่น เขาก็จ่ายเงินแล้วรอรับสินค้า มันง่ายๆตรงไปตรงมาแค่นี้
    แต่ว่าคนที่ search ที่ Google ว่า ?I want to lose my belly fat " เขาไม่ต้องการเข้ามาในเน็ตเพื่อซื้อ โปรแกรมลดความอ้วนอันใดอันหนึ่ง  ไม่ใช่เลย  เขามาเพื่อหาข้อมูลฟรี  แต่เมื่อหาแล้วข้อมูลไม่พอ  หรือหาไม่เจอ นั่นแหละ เขาถึงจะยอมควักเงิน เพราะมันจำเป็นจริงๆ  เธออาจจะเป็นเจ้าสาวที่กำลังเข้าพิธีวิวาห์ ต้องการลดความอ้วนด่วนเพื่อจะได้ใส่ชุดสวยๆได้  เขาอาจเป็นชายหนุ่มรูปร่างท้วมที่กำลังจะไปสมัครงาน ต้องการลดความอ้วนเป็นการด่วน เพื่อให้ดูดีในสายตานายจ้าง  แต่ถ้าไม่เร่งด่วน เรื่องจ่ายเงินคงไม่จำเป็นและยังรอได้   ถ้าเข้าใจตรงนี้  โอกาสขายได้ก็ง่ายขึ้น
       จะเห็นว่า เจ้าของเว็บเขาจะเตรียม Keywords มาให้เรามาก
มาย มากเกินความจำเป็น  บางเจ้าทำไฟล์ Excel มาให้เสร็จ 5000 คำ เพื่อให้เราไปโปรโมทสินค้าของเขา  เขามีแต่ได้กับได้ เพราะ eBook ขายสักกี่เล่มก็ต้นทุนเท่าเดิม แต่คนที่เสี่ยงคือเราที่ต้องเอาเงินเอาทองไปเสี่ยงเพื่อขายสินค้าให้เขา ฉะนั้นอย่าไปหลงกลเขาเด็ดขาด เขามักจะใช้ถ้อยคำเชิญชวนให้โปรโมทสินค้าว่า Converting like crazy ขายดีเป็นบ้าเป็นหลัง  บางทีก็ 1 in 6 Conversion Rate  ซึ่งโม้เกินจริงทั้งสิ้น  อัตรา Conversion เฉลี่ยของ Clickbank 
อยู่ที่ 2% บางเจ้าอาจจะมากหรือน้อยกว่านี้  แต่ไม่มากนัก  1% ถือเป็นเรื่องปรกติมาก แต่
1 ใน 6 เกิดขึ้นได้ยาก  เว้นแต่ว่าคุณมีเทคนิคการขายที่เหนือชั้นกว่าคนอื่นด้วยการกระตุ้นต่อมอยากซื้อให้เกิดขึ้นในจิตคน  เขาอาจไม่อยากซื้อ ไม่อยากเสียตังค์  แต่พอเห็นแถมเยอะๆเกิดอยากได้ของแถม  กี่ครั้งกี่หนที่เราเดินเข้าห้างแล้วซื้อสินค้าเพราะสะดุดตากับของแถมมากกว่าตัวสินค้าจริงๆ  ฉันใดก็ฉันเพล 
ดังที่ผมยกตัวอย่างการขายคู่มือรักษาริดสีดวงโดยวิธีธรรมชาติ  ขายด้วยวิธีปรกติธรรมดาขายไม่ค่อยออก คนป่วยเป็นริดสีดวงดูแล้วก็ผ่านไป ค้นหาข้อมูลฟรีต่อไปดีกว่า  เดี๋ยวก็คงเจอ  พอบอกว่า แถมคู่มือการทำอาหารมังสวิรัติ คู่มือการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงวัย  คู่มือบำบัดการนอนไม่หลับ คู่มือจิปาถะเข้าไปอีกเบ็ดเสร็จเจ็ดเล่ม  ออร์เดอร์มาทันที
การกระตุ้นต่อมอยากซื้อด้วยวิธีแจก แถม รีเบต นั้นก็วิธีหนึ่ง  อีกวิธีหนึ่งคือกรองเอา Keywords ที่ไม่มีปุ่มอยากซื้อแบบปัจจุบันทันด่วนออกให้หมด   
สมมุติการขายโปรแกรมลดความอ้วนอีกครั้ง  เพราะนี่คือสินค้ายอดนิยม ขวัญใจแม่ยกตลอดกาล  สินค้าอื่นมาแล้วก้ไป แต่ขวัญใจแม่ยกอยู่ตลอด เพราะคนตะวันตกโดยเฉพาะคนอเมริกันมีปัญญาเรื่องน้ำหนักตัวเสียหนึ่งในสองคน เอาก้อนหินขว้างไปตรงไหนก็โดนคนอ้วนทั้งนั้น  สินค้านี้มีตลาดกว้าง  แต่ไม่ใช่ว่าขายง่าย เพราะมันไม่ได้มีเฉพาะคลิกแบ๊ง  CJ ?Amazon-Linkshare-Shareasale-paydotcom-maxbounty เขาก็มีสินค้าที่เกี่ยวกับคนอ้วนมานำเสนอทั้งนั้น  ทำอย่างไรจะให้เขาเลือกของเรา
เวลาทำ Amazon ต้องท่องกริยาสามช่อง Browse-Compare-Buy   แล้วพยายามเลือก Keyword ที่อยู่ในกริยาช่องที่สามให้มากที่สุด  แต่ของ Clickbank ส่วนมากจะเป็น Browse-Compare แล้วก็ Bye-Bye  ไม่พบไม่เจอกันอีกชั่วชีวิต 
ทำอย่างไรถึงจะให้เขาไม่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป  นอกจากการแจกการแถมแล้ว  พิจารณาตรงนี้ครับ
1) กลุ่มเป้าหมายมีกำลังซื้อหรือเปล่า  ถ้าคุณใช้คำว่า lose belly fat คำว่า belly แปลว่าพุง แต่มันเป็นคำที่วัยรุ่นใช้กัน  ถ้าคุณใช้คำนี้แสดงว่าการขายของคุณพุ่งเป้าไปที่วัยรุ่น ซึ่งเขาอาจจะอยากซื้อโปรแกรมลดความอ้วนของคุณ  แต่เขาไม่มีกำลังซื้อครับ เขายังไม่มีบัตรเครดิต  ดังนั้นคำนี้ต้องตัดออกไป คุณต้องการผู้ใหญ่ที่มีกำลังซื้อ ต้องใช้ keyword แบบผู้ใหญ่ เช่น weight control management หรือ how to control my weight  -- how to flatten my stomach   คำวัยรุ่นนั้นคลิกกันระเบิดเถิดเทิงครับ คลิกกันจนผมแทบหมดเนื้อหมดตัวมาแล้ว เขาคลิกเพราะเขาสนใจ เขาอยากซื้อ อยากหล่อ อยากสวย อยากเป็นนักกล้าม แต่เขาไม่มีตังค์ครับ  ถ้าจะขายอะไรก็ถามตัวเองก่อนว่า กลุ่มเป้าหมายคือใคร เขามีกำลังซื้อหรือไม่
ถ้าคีย์เวิร์ดที่ใช้อยู่ในกลุ่มคนที่ไม่มีกำลังซื้อ กรองออกให้หมด ถ้าจะขายผู้ใหญ่ ต้องหาคีย์เวิร์ดที่เป็นผู้ใหญ่ ศัพท์วัยรุ่น ภาษาสะแลงต้องงด
2) มีความจำเป็นเร่งด่วนหรือไม่   ถ้าเร่งด่วนมากโอกาสขายก็มีมาก เช่น
-- how to lose 3 pounds in 7 days
--how do I get back with my ex in 2 weeks
--how to find a job in 30 days 
--how do I fix my xBox now
          เงื่อนไขแห่งกาลเวลาที่เขาระบุเข้ามาในช่อง Search แสดงว่าเขามีความจำเป็นต้องแก้ปัญหาของเขาอย่างเร่งด่วน ลองนึกเป็นภาษาไทยง่ายๆ  คนหนึ่งใช้คำว่า ?ริดสีดวง?  อีกคนใช้คำว่า ?วิธีบำบัดริดสีดวงโดยวิธีธรรมชาติภายใน 30 วัน? คุณขายeBook เกี่ยวกับริดสีดวง คุณมีโอกาสขายได้กับลูกค้าหมายเลขหนึ่งหรือหมายเลขสอง  คนที่ระบุเงื่อนไขแห่งกาลเวลาเข้ามาด้วย ไม่ว่า Now-Today-7 days -3 days-one month-2 weeks -30 days เขามีความจำเป็นเร่งด่วนและมีความพร้อมจะซื้อมากกว่าคีย์เวิร์ดที่ลอยเคว้งคว้างโดยไม่ระบุเวลา
เอาสองข้อนี้ไปขบคิดให้ดีๆ  แล้วคุณอาจจะเริ่มมองออกเล็กน้อยแล้วว่า ทำไมบางคนมีแต่คลิกแล้วขายไม่ได้  บางคนมันขายเอาขายเอา
มีเวลาจะมาโพสใหม่ พบกันใหม่เมื่อชาติต้องการ
ท่านที่ต้องการเข้าเว็บบอร์ดฝรั่งขาประจำของผม ไปตรงนี้ครับ  www.clickbanksuccessforum.com/forum
เทคนิคทั้งหมดผมล้วงมาจากบรรดาเทพแห่งเว็บนี้ทั้งสิ้น ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม


ที่มา : มือใหม่ อยากลอง clickbank

No comments: